วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
แสงแดดทำลายผิว ใส ใส แต่บำรุงกระดูก
แสงแดดทำลายผิวแต่บำรุงกระดูก !! ผู้หญิงจะรู้สึกเกรงกลัวแสงแดด เพราะรู้ดีว่าแสงแดดเป็นตัวการทำลายความงาม แถวหน้า ทำให้ผิว หมองคล้ำ เหี่ยวย่น รวมไปถึงฝ้ากระอีกสารพัน หากแต่หารู้ไม่ว่า การหลีกเลี่ยงแสงแดดมากเกินไป มีผลให้ร่างกายเกิดสภาวะโรคกระดูกพรุนได้ ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่ไม่ค่อยมีใครสนใจมากนัก กว่าจะรู้กระดูกก็เปราะบางไปเสียแล้ว จึงอยากให้คิดใหม่ กลับมาตระหนักถึงประโยชน์ของแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างกายสังเคราะห์ วิตามินดี ที่ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินดี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของแคลเซียม ทำให้กระดูกและฟันสมบูรณ์แข็งแรง การสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า เพียง 10 -15 นาทีต่อวัน ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ไม่เป็นโรคกระดูกพรุน โรค กระดูกพรุนนั้น สาวๆ รุ่นใหม่ มีอัตราเป็นโรคนี้กันมากขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมีพฤติกรรมความเป็นอยู่ที่เสี่ยงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟ การสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารไม่ครบถ้วน หรือละเลยการออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายไม่มีการสะสมแคลเซียมเพิ่มเติม แคลเซียมในกระดูกที่มีอยู่ ก็เสื่อมสลายตัวไปเรื่อยๆ จนทำให้โครงสร้างกระดูกเปราะบางและแตกหักได้ง่าย ผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนสูงกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายที่แตกต่างกัน ภาวะ ที่เนื้อกระดูกบางลง ทำให้ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน มักมีอาการปวดหลัง หลังค่อมโก่ง ปวดตามข้อ อาจมีอาการปวดบริเวณที่กระดูกยุบตัวลง กระดูกเปราะ และหักง่าย ผู้สูงอายุจึงต้องระวังการหกล้ม ตำแหน่งที่มักจะเกิดภาวะกระดูกพรุนและหักง่ายคือ กระดูกสันหลัง กระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก กระดูกสันหลังของผู้หญิงอายุ 55 – 75 ปี จะเกิดการยุบตัวมากกว่าในผู้ชาย ทำให้ผู้สูงอายุเตี้ยลงกว่าตอนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงพบว่า เมื่ออายุมากกว่า 60 ปี พบอัตราการเกิดกระดูกสันหลังหักยุบถึงร้อยละ 30 กระดูกสะโพกหักมัก ต้องผ่าตัดรักษา กระดูกสะโพกหักอาจทำให้เดินไม่ได้หรือเสียชีวิตได้ โรคนี้เปรียบเหมือนภัยมืด ค่อยเป็นไปอย่างช้าๆ โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ กว่าจะรู้ตัวก็กระดูกหักเสียแล้ว ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องสะสมกระดูกไว้ให้มากที่สุดตั้งแต่อายุยังน้อย โดยรับประทานอาหารที่มีคุณค่าให้แคลเซียมสูงและออกกำลังกายสม่ำเสมอ การ ป้องกันที่ดีที่สุดคือการสะสมแคลเซียมให้กับกระดูกอย่างสม่ำเสมอ เริ่มต้นจากการรับประทานอาหาร ที่มีแคลเซียมสูง อาทิ ถั่วเหลือง ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อยต่างๆ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ ที่จะกระตุ้นให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีไปช่วยเสริมสร้างแคลเซียม นอกจากนี้ ไม่ควรห่วงอ้วนมากจนเกินไป ต้องรับประทานไขมันบ้าง จำพวกไขมันชนิดดีที่พบในปลาทะเล หรือน้ำมันจากเมล็ดพืช เพราะวิตามินดีจะละลายได้ดีในไขมัน เหล่านี้นอกจากจะช่วยละลายวิตามินดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นไม่หยาบกระด้างอีกด้วย ถ้าต้องการความสะดวก การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยเสริมแคลเซียมให้กับกระดูกก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างไร ก็ตาม ในปัจจุบัน ถ้าใครต้องการรู้ว่าตนเองเป็นโรคกระดูกพรุนหรือไม่ ต้องอาศัยเครื่องตรวจความหนาแน่นกระดูกเข้ามาช่วย โดยการทำงานของเครื่องจะเอ็กซ์เรย์มวลกระดูกบริเวณ ข้อมือ หรือ ข้อเท้า แล้วประมวลผลออกมาเป็นกราฟ ชึ้ให้เห็นสภาวะของกระดูกได้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่จะมีบริการอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ขอบคุณข้อมูล : http://women.sanook.comแสงแดดทำลายผิว ใส ใส แต่บำรุงกระดูก !!